Custom Search
Latest Article Get our latest posts by subscribing this site

การจำแนกแก้วตามลักษณะส่วนผสม


  บรรดาผลิตภัณฑ์แก้วนานาชนิดที่มนุษย์ผลิตขึ้นเพื่อสนองความต้องการใช้มีอยู่มากมาย การผลิตแก้วให้เบาเหมือนไม้คอร์ก หรือหนักเหมือนเหล็ก แข็งแรงเหมือนเหล็กกล้า เปราะง่ายเหมือนเปลือกไข่ อ่อนนุ่มเหมือนปุยฝ้าย หรือแข็งเหมือนเพชรพลอย ก็สามารถจะกระทำได้ทั้งสิน โดยทั่วไปแก้วมีลักษณะแข็ง โปร่งแสง เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัวลง สามารถงอไปมาได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้แก้วในงานต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น งานทางด้านวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม สถาปัตรกรรม โทรคมนาคม วิศวกรรม และยังขยายวงกว้างออกไปโดยไม่มีขอบเขตมีการพัฒนาแก้วชนิดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
  แก้วสามารถจำแนกออกตามส่วนผสมของผลิตภัณฑ์แก้วได้หลายชนิด ได้แก่ แก้วโซดาไลม์ แก้วตะกั่ว แก้วโบโรซิลิเกต วิตเทรียสซิลิก้า แอลคาไลน์ซิลิเกต และแก้วชนิดพิเศษ โดยแก้วละชนิดจะมีส่วนผสมหลัก คือซิลิก้า และแตกต่างกันไปสารอนินทรีย์อื่น
1. แก้วโซดาไลม์
  แก้วโซดาไลม์ ( soda lime glass ) เป็นแก้วที่มีส่วนผสมของโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียมออกไซด์ผสมอยู่ด้วย เนื้อแก้วชนิดนี้มีราคาถูก หลอมละลายง่ายเมื่อเทียบกับแก้วประเภทอื่น มีประมาณร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์แก้วทั้งหมด แก้วประเภทนี้ได้แก่ ขวดต่างๆทั้งชนิดใส และมีสี เช่น ถ้วยแก้ว กระจกแผ่น จานชามข้อเสียสำหรับแก้วประเภทนี้ คือ ถ้วยแก้วต่างๆ ผิวบาง มักจะไม่ทนทานในการใช้งาน เกิดการแตกร้าวระหว่างการใช้งานบ่อยๆ เนื่องจากการขยายตัวและหดตัวสูง คำแนะนำในการใช้งานที่เหมาะสม คือ เมื่อนำไปใช้กับน้ำร้อนก็ไม่ควรไปใส่น้ำเย็น หากนำไปใช้สลับทั้งน้ำร้อน และน้ำเย็น อาจทำให้เกิดการแตกได้ง่าย นอกจากนี้ยังนำเอาแก้วประเภทนี้ไปผลิตเป็นแก้วนิรภัยซึ่งใช้เป็นกระจกรถยนต์ แก้วกระสุน และลูกถ้วยไฟฟ้า ( glass insulator )ได้อีกด้วย
2. แก้วตะกั่ว
  แก้วตะกั่ว ( lead glass ) เป็นแก้วที่มีตะกั่วออกไซด์ สมบัติพิเศษของแก้วประเภทนี้มีความมันแวววาว สุกใสการหลอมแก้วโดยการใช้ตะกั่วเป็นตัวลดจุดหลอมละลายตัวของแก้วให้ต่ำลง หลอมง่าย และสวยงาม จึงนิยมนำไปทำผลิตภัณฑ์ประเภทงานศิปละ และเนื่องจากแก้วชนิดนี้มีความต้่านทานไฟฟ้าดี จึงนำไปใช้ผลิตอุปกรณ์วิทยุเรดาร์ หลอดโทรทัศน์ และหลอดชนิดต่างๆด้วย
3. แก้วโบโรซิลิเกต
  แก้วโบโรซิลิเกต( borosilicate glass ) เป็นแก้วที่มีบอแรกซ์ด้วย แก้วประเภทนี้มีลักษณะดีเด่นเป็นพิเศษหลายประการ กล่าวคือ สามารถทนความร้อนได้ดี ทนต่อการกัดกร่อนทางเคมี การหลอมตัวใช้บอแรกซ์เป็นสารลดจุดหลอมละลายตัวของแก้วให้ต่ำลง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วประเภทนี้ ได้แก่ แก้วที่เข้าเตาอบได้ แก้วที่ใช้ประจำห้องทดลอง ทำท่อในอุสาหกรรม และทำส่วนประกอบการสูบน้ำ กล้องดูดาว
4. วิตเทรียสซิลิก้า
  วิตเทรียสซิลิก้า ( vitreous silica )หรือแก้วซิลิก้า เป็นแก้วที่มีส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 96 จึงหลอมตัวยากต้องใช้อุณหภูมิสูงพิเศษ ขณะหลอมมีฟองเกิดขึ้นมาก จึงนิยมทำการหลอมในสุญญากาศ มีความหนืดสูงมาก เป็นแก้วที่มีความคงทนทางเคมี และทนไฟ้ได้ดี สัมประสิทธิ์การขยายตัวต่ำ มีความแข็งแกร่งดี ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโดยฉับพลัน มีความต้านทานที่ผิวดีมาก มีราคาแพง โดยมากจะใช้ในกรณีที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานต่อความร้อนสูงถึง 2,000 องศาเซลเซียส
5. แอลคาไลน์ซิลิเกต
  แอลคาไลน์ซิลิเกต( alkaline silicate ) เป็นแก้วที่มีโซเดียมออกไซด์และออกไซดือื่นอยู่ในส่วนผสม ทำให้เกิดการละลายตัวในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าวิตเทรียสซิลิก้ามาก การหลอมละลายแก้วชนิดนี้เกิดได้ยากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของออกไซด์ หากไม่พอเหมาะจะไม่เกิดเนื้อแก้ว ดังนั้นโดยทั่วไป จึงไม่นิยมใช้ทำผลิตภัณฑ์แก้วโดยตรงแต่จะใช้เป็นส่วนผสมในกรณีที่ต้องการให้เกิดการยึดติดของสารให้มากขึ้น เช่น กาว
  นอกจากนี้จะมีแก้วชนิดพิเศษอื่นที่มีลักษณะแตกต่างไปจากที่กล่าวข้างต้น เช่น แก้วโซดาไลม์มีการตกแต่งให้เกิดเป็นสีต่างๆ เพื่อใช้ในงานเฉพาะกิจ บางประเภทต้องการให้เกิดสีสวยงามในเนื้อแก้ว บางประเภทก็ต้องปรับปรุงคุณภาพโดยเฉพาะให้ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโดยฉับพลันโดยไม่แตกหรือมีความคงทนต่อแรงกระทบกระแทรก ดังจะพบว่าจากบางประเภทผลิตภัณฑ์จากฝรั่งเศล หรือ อิตาลี สามารถทดลองโยนลงจากที่สูงให้กระทบพื้นโดยไม่แตกร้าวประการใด

nn

คลังบทความของเทคโนโลยีการพิมพ์