Printing Technology: แม่พิมพ์ |รวมสาระความรู้เกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีด้านงานพิมพ์

เจาะลึก: งานหลังพิมพ์ (Post-Press) 5 เทคนิคเพิ่มมูลค่าให้สิ่งพิมพ์ของคุณ

Posted by Ok-Workshop Posted on 06:58

งานหลังพิมพ์ (Post-Press) คือขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นการนำแผ่นพิมพ์ที่ออกมาจากเครื่องพิมพ์แล้ว มาแปรรูปเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ชิ้นงานสำเร็จรูปที่สวยงาม ทนทาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเลือกเทคนิคงานหลังพิมพ์ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้กับสิ่งพิมพ์ของคุณ แต่ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

นี่คือ 5 เทคนิคงานหลังพิมพ์ยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งพิมพ์ของคุณ:

1. การเคลือบ (Lamination)

การเคลือบคือการนำฟิล์มพลาสติกบางๆ มาเคลือบทับลงบนผิวหน้าของสิ่งพิมพ์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน ความชื้น และยังช่วยเพิ่มความสวยงามได้อีกด้วย การเคลือบมีหลายประเภทหลักๆ ได้แก่:

เคลือบเงา (Gloss Lamination): ให้ผิวสัมผัสเรียบลื่นและมันเงา ช่วยให้สีสันของสิ่งพิมพ์ดูสดใสและโดดเด่น เหมาะสำหรับโปสเตอร์ ปกนิตยสาร โบรชัวร์ที่ต้องการความสะดุดตา

เคลือบด้าน (Matte Lamination): ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน ไม่สะท้อนแสง ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม และเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับนามบัตร ปกหนังสือ เมนูอาหาร หรือสิ่งพิมพ์ที่ต้องการความพรีเมียม

เคลือบด้านแบบพิเศษ (Soft Touch Lamination): คล้ายเคลือบด้านแต่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่ ให้ความรู้สึกพิเศษและมีราคา

2. การเคลือบ UV (UV Coating) และ Spot UV

การเคลือบ UV เป็นการนำน้ำยาเคมีพิเศษมาเคลือบบนผิวหน้าของสิ่งพิมพ์ แล้วนำไปอบด้วยแสง UV เพื่อให้น้ำยาแห้งและแข็งตัวทันที การเคลือบ UV มีทั้งแบบเต็มแผ่นและแบบเฉพาะจุด:

เคลือบ UV เต็มแผ่น (Flood UV Coating): เคลือบทับทั่วทั้งแผ่น ช่วยให้สิ่งพิมพ์มีความมันเงา สดใส และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี คล้ายกับการเคลือบเงาแต่มีความเงางามมากกว่าและมีราคาที่ถูกกว่า มักใช้กับกล่องบรรจุภัณฑ์ โปสเตอร์

เคลือบ Spot UV (Partial UV Coating): เป็นการเคลือบเงา UV เฉพาะจุดที่ต้องการเน้น เช่น โลโก้ รูปภาพ หรือตัวอักษร เพื่อสร้างมิติและความโดดเด่นบนพื้นผิวเคลือบด้าน หรือเคลือบธรรมดา เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มความหรูหราและลูกเล่นให้กับสิ่งพิมพ์ได้อย่างยอดเยี่ยม มักใช้กับนามบัตร ปกหนังสือ โบรชัวร์

3. การไดคัท (Die-Cutting)

การไดคัทคือการตัดสิ่งพิมพ์ให้เป็นรูปทรงต่างๆ ตามแม่พิมพ์ที่ออกแบบไว้ นอกเหนือจากรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นฐาน เช่น วงกลม วงรี รูปดาว หรือรูปทรงซับซ้อนอื่นๆ ที่ไม่สามารถใช้เครื่องตัดปกติได้ การไดคัทช่วยสร้างสรรค์สิ่งพิมพ์ให้มีลูกเล่น โดดเด่น และไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์, สติ๊กเกอร์, ป้ายแขวน, นามบัตรรูปทรงพิเศษ หรือแผ่นพับที่มีรูปทรงแปลกตา

4. การปั๊มฟอยล์ (Foil Stamping)

การปั๊มฟอยล์ หรือ ฮอทสแตมป์ (Hot Stamp) คือการใช้ความร้อนและแรงกดทับแผ่นฟอยล์ (Foil) สีต่างๆ ลงบนพื้นผิวของสิ่งพิมพ์ เพื่อให้เกิดลวดลายหรือตัวอักษรที่เป็นสีฟอยล์ เช่น สีทอง สีเงิน สีโรสโกลด์ หรือสีอื่นๆ การปั๊มฟอยล์ช่วยเพิ่มความหรูหรา อลังการ และสร้างจุดเด่นให้กับสิ่งพิมพ์ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับโลโก้, ตัวอักษร, นามบัตรพรีเมียม, ปกหนังสือ, ใบประกาศนียบัตร หรือกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้าหรูหรา

5. การปั๊มนูน/ปั๊มจม (Embossing / Debossing)

การปั๊มนูน (Embossing): เป็นการใช้แม่พิมพ์กดเพื่อให้ส่วนที่ต้องการนูนขึ้นมาจากพื้นผิวของสิ่งพิมพ์ สร้างมิติและสัมผัสที่จับต้องได้ โดยไม่มีการพิมพ์สีเพิ่มเติม มักใช้กับโลโก้ ตัวอักษร หรือลวดลายที่ต้องการความโดดเด่นเป็นพิเศษ

การปั๊มจม (Debossing): ตรงข้ามกับการปั๊มนูน คือการใช้แม่พิมพ์กดเพื่อให้ส่วนที่ต้องการจมลงไปบนพื้นผิวของสิ่งพิมพ์ ให้ความรู้สึกเรียบหรูและมีระดับเช่นกัน

เทคนิคทั้งสองนี้เหมาะสำหรับนามบัตร, ปกรายงาน, บรรจุภัณฑ์ หรือสิ่งพิมพ์ที่ต้องการเน้นความเรียบหรู มีสไตล์ และสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร

การเลือกเทคนิคงานหลังพิมพ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้สิ่งพิมพ์ของคุณดูน่าสนใจ มีราคา และสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้อย่างแน่นอน อย่าลืมปรึกษาโรงพิมพ์เพื่อทำความเข้าใจข้อจำกัดและข้อแนะนำของแต่ละเทคนิคก่อนตัดสินใจนะ

หัวข้อหลัก

งานหลังพิมพ์, Post-Press, เทคนิคงานพิมพ์, เพิ่มมูลค่าสิ่งพิมพ์, การแปรรูปสิ่งพิมพ์

เทคนิคการเคลือบเคลือบ,

เคลือบ UV, Spot UV, เคลือบเงา, เคลือบด้าน, Soft Touch

เทคนิคพิเศษไดคัท,

Die-Cutting, ปั๊มฟอยล์, Foil Stamping, ปั๊มนูน, ปั๊มจม, Embossing, Debossing

การใช้งานนามบัตร,

บรรจุภัณฑ์, ปกหนังสือ, โบรชัวร์, สิ่งพิมพ์พรีเมียม

คำศัพท์ทั่วไป

การผลิตสิ่งพิมพ์, โรงพิมพ์, แม่พิมพ์, Hot Stamp

ภาพที่ 1: การเคลือบ (Lamination) และ เคลือบ UV (UV Coating) / Spot UV

ภาพนี้แสดงถึงแผ่นพิมพ์ที่กำลังถูกเคลือบ โดยมีครึ่งหนึ่งเป็น "เคลือบด้าน" (Matte Lamination) และอีกครึ่งหนึ่งเป็น "เคลือบเงา" (Gloss Lamination) หรือ "UV Coating" ที่มีความเงาวาว และอาจมีจุด "Spot UV" บนโลโก้เพื่อแสดงความโดดเด่น

ภาพที่ 2: การไดคัท (Die-Cutting)

ภาพนี้แสดงถึงเครื่องไดคัทที่กำลังตัดสิ่งพิมพ์ให้เป็นรูปทรงที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยม หรืออาจเป็นภาพสิ่งพิมพ์ที่สำเร็จแล้วมีรูปทรงแปลกตา เช่น นามบัตรรูปวงกลม หรือรูปทรงเฉพาะของแบรนด์

ภาพที่ 3: การปั๊มฟอยล์ (Foil Stamping)

ภาพนี้แสดงสิ่งพิมพ์ที่ถูกปั๊มฟอยล์สีทองหรือสีเงินบนโลโก้หรือตัวอักษร ให้เห็นถึงความเงางามและหรูหราที่โดดเด่นออกมาจากพื้นผิว

ภาพที่ 4: การปั๊มนูน/ปั๊มจม (Embossing / Debossing)

ภาพนี้แสดงสิ่งพิมพ์ที่มีส่วนที่นูนขึ้นมา (Embossing) และ/หรือส่วนที่จมลงไป (Debossing) โดยไม่มีสี เพื่อให้เห็นถึงมิติและพื้นผิวที่สัมผัสได้

เทคนิคภาพพิมพ์ ด้วยแม่พิมพ์แบบ Lithography of Print Techniques

Posted by Ok-Workshop Posted on 03:18

Lithography
คำว่า ลิโธกราฟ (ภาพพิมพ์หิน) หรือ Planographic process คือ กระบวนการทำภาพพิมพ์ที่มีแม่พิมพ์ผิวเรียบแบน เป็นการวาดเส้นลงแผ่นหิน นอกจากแผ่นแม่พิมพ์หินเนื้อดีแล้ว แม่พิมพ์ที่ผลิตเป็นพิเศษจากโลหะก็สามารถนำมาใช้กับเทคนิคนี้ได้ วิธีการของเทคนิคนั้นอาศัยหลักความจริงที่ว่า ไขมันกับน้ำจะไม่รวมตัวเข้าด้วยกัน ดังนั้น ภาพที่เขียนลงบนแม่พิมพ์ จะเขียนด้วยวัสดุที่มีส่วนผสมของไข จากนั้นจะทำแม่พิมพ์ให้ชื้นด้วยน้ำ แล้วจึงนำหมึกซึ่งมีส่วนผสมของไขกลิ้งลงบนผิวหน้าของแม่พิมพ์ หมึกจะติดกับภาพที่ร่างไว้ด้วยไข แต่จะไม่ติดลงบนผิวแม่พิมพ์ที่เปียกชื้น จากนั้นพิมพ์ภาพโดยผ่านแรงกดจากแท่นพิมพ์ สำหรับการพิมพ์จำนวนมากนั้น ต้องรักษาแม่พิมพ์โดยการใช้สารเคมีเคลือบเพื่อปกป้องภาพที่ร่างด้วยไขให้ติดแน่นกับแม่พิมพ์ แล้วใช้กาวอะราบิคเคลือบให้ทั่วแม่พิมพ์อีก ขั้วหนึ่งเพื่อป้องกันไขมันอื่นๆที่สามารถติดลงบนแม่พิมพ์ได้ สำหรับการสร้างภาพที่มีลักษณะเป็นสี ศิลปินจะใช้การแยกแม่พิมพ์