Latest Article Get our latest posts by subscribing this site
วิธีการทำแม่พิมพ์สกรีน screen print สำหรับกรีนเสื้อ ด้วยเครื่องพิมพ์ Yudu Machine
Posted by Ok-Workshop
Posted on 21:36
เทคโนโลยีการพิมพ์ธนบัตร
Posted by Ok-Workshop
Posted on 21:14
การพิมพ์ธนบัตรประกอบด้วยการพิมพ์ภาพและลวดลายต่าง ๆ ด้วยกรรมวิธีการพิมพ์ ๒ แบบ คือ การพิมพ์ออฟเซตแห้ง (Dry offset) หรือเรียกตามลักษณะลวดลายว่า การพิมพ์สีพื้น และการพิมพ์อินทาลโย (Intaglio) หรือเรียกตามลักษณะลวดลายที่ได้จากการพิมพ์ว่า การพิมพ์เส้นนูน นอกจากนี้ ยังมีการพิมพ์อีกขั้นตอนหนึ่งก่อนการผลิตเป็นธนบัตรสำเร็จรูป คือ การพิมพ์เลขหมายและลายเซ็น ซึ่งใช้การพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์ (Letterpress)
การพิมพ์สีพื้น
เป็นงานขั้นตอนแรกของการพิมพ์ธนบัตร โดยใช้เครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์ภาพได้ทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน ทำให้บางส่วนของลวดลายที่ตั้งใจออกแบบไว้ในตำแหน่งตรงกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังของธนบัตรซ้อนทับกันสนิท หรือประกอบขึ้นเป็นลวดลายที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงอย่างหนึ่ง![]() |
เครื่องพิมพ์สีพื้น |
![]() |
แผ่นพิมพ์ธนบัตรที่ผ่านการพิมพ์สีพื้นด้านหน้า |
การพิมพ์เส้นนูน
เป็นการพิมพ์ภาพและลวดลายต่าง ๆ ด้วยเครื่องพิมพ์แบบพิเศษที่ใช้แรงกดพิมพ์สูงและหมึกพิมพ์ซึ่งมีความเหนียวหนืดสูง เพื่อทำให้หมึกพิมพ์กองนูนบนผิวกระดาษ ทำให้ได้รายละเอียดและความอิ่มตัวสีสูง เหมาะกับการพิมพ์ภาพประธานและส่วนที่ต้องการเน้นให้เด่นและคมชัด เช่น พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ และตัวเลขแจ้งราคาด้านหน้าธนบัตร เป็นต้น ซึ่งหากใช้ปลายนิ้วมือลูบสัมผัสผ่านเบา ๆ จะรู้สึกได้ถึงความนูนนั้น นับเป็นลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่สำคัญยิ่งในการผลิตธนบัตรและสิ่งพิมพ์มีค่าอื่น
![]() |
แม่พิมพ์เส้นนูน |
![]() |
เครื่องพิมพ์เส้นนูน |
![]() |
แผ่นพิมพ์ธนบัตรที่ผ่านการพิมพ์เส้นนูน |
การพิมพ์เลขหมายและลายเซ็น
แผ่นพิมพ์ที่พิมพ์ภาพและลวดลายสีพื้นและเส้นนูนแล้ว จะผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด เพื่อคัดแยกธนบัตรที่มีข้อบกพร่องออกไปทำลาย ส่วนธนบัตรที่มีคุณภาพตามมาตรฐานจะส่งไปพิมพ์เลขหมายและลายเซ็นต่อไป
การพิมพ์เลขหมายและลายเซ็นใช้การพิมพ์เลตเตอร์เพรสส์เพื่อควบคุมจำนวนธนบัตรออกใช้ โดยเครื่องพิมพ์จะมีระบบควบคุมและตรวจสอบการเปลี่ยนเลขหมายในแต่ละรอบการพิมพ์ ดังนั้น เลขหมายที่กำกับบนธนบัตรแต่ละฉบับที่เป็นแบบและชนิดราคาเดียวกันจะไม่ซ้ำกันเป็นอันขาด สำหรับลายเซ็นบนธนบัตรทุกฉบับจะเป็นลายเซ็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในสมัยนั้น ๆ
![]() |
เครื่องพิมพ์เลขหมายและลายเซ็น |
![]() |
แผ่นพิมพ์ธนบัตรที่พิมพ์เลขหมายและลายเซ็นแล้ว |
หลักสูตรการอบรมของสถาบันการพิมพ์ไทย
Posted by Ok-Workshop
Posted on 08:42
Competency Structure | |||
1. | Follow OH&S practices and identify environmental hazards | 14. | Printing problem |
2. | Apply knowledge requirements of printing | 15. | Print length |
3. | Prepare machine for operation basic | 16. | Colour Matching |
4. | Set up basic lithographic printing | 17. | Colour separation - screen |
5. | Print chemistry - ink and water balance | 18. | Measuring tool |
6. | Produce basic lithographic print single colour | 19. | Paper manufacture |
7. | Printing plate care | 20. | Produce complex lithographic print - 4 colour process |
8. | Make ready book | 21. | Inspecquality against required standards - densitometry |
9. | Produce complex Lithographic print 4 colour line | 22. | Quick change over |
10. | Operate and monitor machines - registration | 23. | Set up basic coating (varnish) |
11. | Perfacting | 24. | On-demand printing (digital printing) |
12. | Blanket and packing | 25. | Printing costing and estimating |
13. | Imposition | 26. | Web - Basic |
|
ข้อมูลจาก http://www.thaiprintacademy.com/
สหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย: Thailand Printing Federation
Posted by Ok-Workshop
Posted on 08:04
สหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ เกิดขึ้นจากความต้องการของกลุ่มสมาคมต่างๆ ที่ประกอบการเกี่ยวข้องกับการพิมพ์ เพื่อต้องการเข้า ไปช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่างๆ ระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งปัญหาต่างๆ ส่วนใหญ่จะซ้ำซ้อนเหลื่อมล้ำกันมาตลอดระหว่างสมาชิก ของผู้ประกอบการ และในช่วงเวลาที่ผ่านมา บทบาทของการแก้ปัญหาระหว่างภาครัฐกับเอกชน ส่วนใหญ่รัฐบาลจะยอมรับฟังผ่าน ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นหลัก กลุ่มสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจึงเห็นว่า ควรจะมีการทำงานร่วมกันเป็นแนวทางเดียวกัน และควรนำปัญหาต่างๆ นำเสนอผ่านทางกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์ ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่แล้ว ให้เป็นผู้ดำเนินการประกอบกับระหว่างนั้นได้มีการรวมตัวกันจัดตั้งภาคของอุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคเอชีย / เอเชียอาคเนย์ การพิมพ์และสิ่งพิมพ์หนังสือก็รวมอยู่ในข่ายที่จะต้องจัดตั้งเป็นภาคีของภูมิภาคด้วย โดยสาขาของอุตสาหกรรมการพิมพ์ ได้ถูกจัดให้ เป็นแกนนำของการพิมพ์ของประเทศที่จะเข้าไปร่วมจัดตั้งเป็นภาคี (printing and Publishing Club)
จากสาเหตุดังกล่าว ประกอบกับความต้องการของผู้ประกอบทางด้านการพิมพ์ที่จะร่วมกันแก้ปัญหาของบรรดาสมาชิกจึงได้นำรูปแบบ การทำงานของกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ (ของสภาอุตสาหกรรมฯ) มาศึกษาและปรับโครงสร้างให้เข้ากับการทำงานของกลุ่มการพิมพ์ ดังนั้นในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2536 จึงมีมติจัดตั้งเป็นสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ เป็นแกนกลางประกอบด้วยสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 7 กลุ่ม โดยให้นายกทุกสมาคมทำหน้าที่เป็นมนตรีและทำการเลือกประธานมนตรีและจัดแบ่งการทำงานเป็น รูปแบบองค์กรชัดเจน โดยประธานมนตรีจะมีวาระการทำงานครั้งละ 1 ปี และจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนให้นายกของแต่ละกลุ่มเข้าทำหน้าที่ประธาน ซึ่งวันที่ 7 มกราคม 2536 เป็นวันกำเนิด สหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ (สอกพ.) โดยได้เชิญนายกสมาคม ประธานกลุ่มและชมรม มาทำความตกลงในการเข้ารับตำแหน่งด้วยวิธีการจับฉลาก เพื่อมาทำหน้าที่ประธานคณะมนตรีท่านละ 1 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณอร่าม อามรดิษ พาไปลงสัตยาบันที่สโมสรรัฐสภา
วัตถุประสงค์
ผดุงไว้ซึ่งสิทธิประโยชน์ร่วมกันในการประกอบอาชีพของมวลสมาชิก เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจ
เพื่อเป็นองค์กรที่มีอำนาจในการเข้าทำความตกลงกับรัฐบาลและองค์กรของประเทศในกรณีที่มีส่วนเกี่ยวพันและมีผล
กระทบกับอุตสาหกรรมการพิมพ์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง
ประสานงานและปฏิบัติงานโดยพลันเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพิมพ์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง
ทางด้านภาษี บุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยีและอื่น
ส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพิมพ์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ทั้งในทางปฏิบัติและในทางวิชาการ
ให้การช่วยเหลือมวลสมาชิกที่มีปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมการพิมพ์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง
สมาชิกของสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์
1. สมาคมการพิมพ์ไทย
2. กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
3. สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
4. สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย
5. สมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย
6. สมาคมการพิมพ์สกรีนไทย
7. ชมรมการจัดพิมพ์อิเล็กทรอนิกไทย
8. สมาคมส่งเสริมวิชาการพิมพ์
9. สมาคมแยกสีแม่พิมพ์เพื่ออุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย
คณะมนตรีสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ วาระปี 2556-2557
รายนามอดีตคณะมนตรีสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์
การพิมพ์ภาพ ( PRINTING )
Posted by Ok-Workshop
Posted on 06:46
การพิมพ์ภาพ หมายถึง การถ่ายทอดรูปแบบจากแม่พิมพ์ออกมาเป็นผลงานที่มีลักษณะ เหมือนกันกับแม่พิมพ์ทุกประการ และได้ภาพที่เหมือนกันมีจำนวนตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป
การพิมพ์ภาพเป็นงานที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากการวาดภาพ ซึ่งการวาดภาพไม่สามารถ สร้างผลงาน 2 ชิ้น ที่มีลักษณะเหมือนกันทุกประการได้ จึงมีการพัฒนาการพิมพ์ขึ้นมา ชาติจีน ถือว่าเป็นชาติแรกที่นำเอาวิธีการพิมพ์มาใช้อย่างแพร่หลายมานานนับพันปี จากนั้น จึงได้แพร่หลายออกไปในภูมิภาคต่างๆของโลก ชนชาติทางตะวันตกได้พัฒนาการพิมพ์ภาพ ขึ้นมาอย่างมากมาย มีการนำเอาเครื่องจักรกลต่างๆเข้ามาใช้ในการพิมพ์ ทำให้การพิมพ์มีการ พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
การพิมพ์ภาพมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
1. แม่พิมพ์ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพิมพ์
2. วัสดุที่ใช้พิมพ์ลงไป
3. สีที่ใช้ในการพิมพ์
4. ผู้พิมพ์
ผลงานที่ได้จากการพิมพ์ มี 2 ชนิด คือ
1.ภาพพิมพ์ เป็นผลงานพิมพ์ที่เป็นภาพต่างๆ เพื่อความสวยงามหรือบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อาจมีข้อความ ตัวอักษรหรือตัวเลขประกอบหรือไม่มีก็ได้
2.สิ่งพิมพ์ เป็นผลงานพิมพ์ที่ใช้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เป็นตัวอักษร ข้อความ ตัวเลข อาจมี ภาพประกอบหรือไม่มีก็ได้
ประเภทของการพิมพ์ การพิมพ์แบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะต่าง ดังนี้
1. แบ่งตามจุดมุ่งหมายในการ พิมพ์ ได้ 2 ประเภท คือ
1.1 ศิลปภาพพิมพ์ ( GRAPHIC ART ) เป็นงานพิมพ์ภาพเพื่อให้เกิดความสวยงามเป็น งานวิจิตรศิลป์
1.2 ออกแบบภาพพิมพ์ ( GRAPHIC DESIGN ) เป็นงานพิมพ์ภาพประโยชน์ใช้สอยนอก เหนือไปจากความสวยงาม ได้แก่ หนังสือต่างๆ บัตรต่างๆ ภาพโฆษณา ปฏิทิน ฯลฯ จัดเป็นงาน ประยุกต์ศิลป์
2. แบ่งตามกรรมวิธีในการพิมพ์ ได้ 2 ประเภท คือ
2.1ภาพพิมพ์ต้นแบบ ( ORIGINAL PRINT ) เป็นผลงานพิมพ์ที่สร้างจากแม่พิมพ์และวิธี การพิมพ์ที่ถูก สร้างสรรค์และกำหนดขึ้นโดยศิลปินเจ้าของผลงาน และเจ้าของผลงาน จะต้องลงนามรับรองผลงานทุกชิ้น บอกลำดับที่ในการพิมพ์ เทคนิคการพิมพ์ และ วัน เดือน ปี ที่พิมพ์ด้วย
2.2ภาพพิมพ์จำลองแบบ ( REPRODUCTIVE PRINT ) เป็นผลงานพิมพ์ที่สร้างจากแม่พิมพ์ หรือวิธี การพิมพ์วิธีอื่น ซึ่งไม่ใช่วิธีการเดิมแต่ได้รูปแบบเหมือนเดิม บางกรณีอาจเป็นการ ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น
3. แบ่งตามจำนวนครั้งที่พิมพ์ ได้ 2 ประเภท คือ
3.1ภาพพิมพ์ถาวร เป็นภาพพิมพ์ที่พิมพ์ออกมาจากแม่พิมพ์ใดๆ ที่ได้ผลงานออกมามีลักษณะ เหมือนกันทุกประการ ตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป
3.2ภาพพิมพ์ครั้งเดียว เป็นภาพพิมพ์ที่พิมพ์ออกมาได้ผลงานเพียงภาพเดียว ถ้าพิมพ์อีกจะ ได้ผลงานที่ไม่เหมือนเดิม
4. แบ่งตามประเภทของแม่พิมพ์ ได้ 4 ประเภท คือ
4.1แม่พิมพ์นูน ( RELIEF PROCESS ) เป็นการพิมพ์โดยให้สีติดอยู่บนผิวหน้าที่ทำให้นูน ขึ้นมาของแม่พิมพ์ ภาพที่ได้เกิดจากสีที่ติดอยู่ในส่วนบนนั้น แม่พิมพ์นูนเป็นแม่พิมพ์ ที่ทำขึ้นมาเป็นประเภทแรก ภาพพิมพ์ชนิดนี้ได้แก่ ภาพพิมพ์แกะไม้ ( WOOD-CUT ) ภาพพิมพ์แกะยาง ( LINO-CUT ) ตรายาง ( RUBBER STAMP ) ภาพพิมพ์จากเศษวัสดุต่างๆ
4.2แม่พิมพ์ร่องลึก ( INTAGLIO PROCESS ) เป็นการพิมพ์โดยให้สีอยู่ในร่องที่ทำให้ลึกลง ไปของแม่พิมพ์โดยใช้แผ่นโลหะทำเป็นแม่พิมพ์ ( แผ่นโลหะที่นิยมใช้คือแผ่นทองแดง ) และทำให้ลึกลงไปโดยใช้น้ำกรดกัด ซึ่งเรียกว่า ETCHING แม่พิมพ์ร่องลึกนี้พัฒนาขึ้นโดย ชาวตะวันตก สามารถพิมพ์งานที่มีความ ละเอียด คมชัดสูง สมัยก่อนใช้ในการพิมพ์ หนังสือ พระคัมภีร์ แผนที่ เอกสารต่างๆ แสตมป์ ธนบัตร ปัจจุบันใช้ในการพิมพ์งานที่เป็นศิลปะ และธนบัตร
4.3แม่พิมพ์พื้นราบ ( PLANER PROCESS ) เป็นการพิมพ์โดยให้สีติดอยู่บนผิวหน้า ที่ราบเรียบของแม่พิมพ์ โดยไม่ต้องขุดหรือแกะพื้นผิวลงไป แต่ใช้สารเคมีเข้าช่วย ภาพพิมพ์ ชนิดนี้ได้แก่ ภาพพิมพ์หิน ( LITHOGRAPH ) การพิมพ์ออฟเซท ( OFFSET ) ภาพพิมพ์กระดาษ ( PAPER-CUT ) ภาพพิมพ์ครั้งเดียว ( MONOPRINT )
4.4 แม่พิมพ์ฉลุ ( STENCIL PROCESS ) เป็นการพิมพ์โดยให้สีผ่านทะลุช่องของแม่พิมพ์ลงไป สู่ผลงานที่อยู่ด้านหลัง เป็นการพิมพ์ชนิดเดียวที่ได้รูปที่มีด้านเดียวกันกับแม่พิมพ์ ไม่กลับซ้าย เป็นขวา ภาพพิมพ์ชนิดนี้ได้แก่ ภาพพิมพ์ฉลุ ( STENCIL ) ภาพพิมพ์ตะแกรงไหม ( SILK SCREEN ) การพิมพ์อัดสำเนา ( RONEO ) เป็นต้น
ที่มาจาก http://www.mew6.com/composer/art/printing.php
ที่มาจาก http://www.mew6.com/composer/art/printing.php