Custom Search
Latest Article Get our latest posts by subscribing this site

ประเภทของเซรามิกที่แบ่งตามลักษณะของเนื้อดิน

  การจำแนกประเภทเซรามิกแบบเดิมตามลักษณะของเนื้อดิน เป็นที่นิยมใช้มาก เซรามิกชนิดนี้ ได้แก่
2.1 เทอราคอดตา( terra cotta )เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อดินเป็นสี(ไม่ขาว) เช่น สีแดง สีน้ำตาล สีเหลืองอ่อนเกิดจากการใช้ดินเหนียวที่มีเหล็กปนอยู่ ทำให้เมื่อเผาแล้วจะเกิดเป็นสีขึ้น เผาผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ900-1050 องศาเซลเซียส ผลิตภัณฑ์มีความพรุนตัวและดูดซึมน้ำได้ เช่น กระถางต้นไม้ หม้อดิน
2.2 เอิตเทนเวร์(earthen ware) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อละเอียด มีสีขาวหรือขาวอมเทา ผลิตภัณฑ์มีความพรุนตัวและดูดซึมน้ำได้สูงประมาณร้อยละ 10-15 เนื้อผลิตภัณฑ์ จึงมักจะได้รับการเคลือบผิว เช่น ภาชนะ จาน ชาม กระเบื้อง เครื่องประดับ ของตกแต่ง
2.3 สโตนแวร์( stone ware) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อแน่น สีเนื้อดิน อาจมีสีขาวหรือสีอื่นๆได้ มีความแข็งแกร่งทึบแสง การดูดซึมน้ำต่ำมาก หรือไม่ดูดซึมน้ำ เนื่องจากอุณหภูมิที่ใช้ในการเผาค่อนข้างสูงประมาณ 1100-1300 องศาเซสเซียส ทำให้ผลิตภัณฑ์ถูกเผาถึงจุดสุกตัว เช่น ถ้วย จาน ชาม ชุดน้ำชา กาแฟ ซึ่งผลิตภัตฑ์ที่ได้จะมีความแข็งแกร่งกว่าเอิทเทนแวร์
2.4 พอร์สเลน(porcelain)เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อแน่นเนียนละเอียด มีสีขาว โปร่งแสง เคาะมีเสียงดังกังวาลเผาที่อุณหภูมิตั้งแต่ 1200องศาเซลเซียส ขึ้นไป ทำให้ถึงจุดสุกตัว ไม่ดูดซึมน้ำ มีความแข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์พอร์สเลนมีมากมาย เช่น เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องสุขภัณฑ์ ฉนวนไฟฟ้า ภาชนะสำหรับงานทดลองทางเคมี
2.5 โบนไชน่า( bone china )เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางโปร่งแสงมาก เนื่องจากการใช้เถ้ากระดูกสัตว์( boneash )เป็นวัตถุดิบหลักที่สำคัญของส่วนผสมเนื้อผลิตภัณฑ์  ผลิตภัณฑ์โบนไชนามีน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแกร่งนิยมผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เช่น ถ้วย จาน ชาม ชุดน้ำชา กาแฟ
เซรามิกแบบเดิมนี้มักใช้เป็นวัสดุสำหรับการพิมพ์

ประเภทของเซรามิกที่แบ่งตามลักษณะการใช้งาน

 ผลิตภัณฑ์ของเซรามิกแบบเดิม มักผลิตขึ้นเพื่อใช้ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเสริมปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิต เช่น ทำภาชนะสำหรับใส่น้ำ อาหาร ยารักษาโรคทำวัตถุก่อสร้างสำหรับที่อยู่อาศัย ดังนั้นการจำแนกประเภทของเซรามิกแบบเดิมตามลักษณะการใช้งาน มีดังนี้
1.1 เซรามิกที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง( structural ceramics )ซึ่งมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องบุผนัง กระเบื้องโมเสก กระเบื้องมุงหลังคา อิฐธรรมดา หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า อิฐมอญ อิฐปูพื้น อิฐประดับ อิฐกลวง ท่อน้ำ ท่อร้อยสายไฟ สายโทรศัพท์
  นอกจากนี้ซีเมนต์( cement )ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการก่อสร้าง ก็จัดเป็นเซรามิกด้วย เนื่องจากซีเมนต์ได้จากการเผาส่วนผสมที่มีวัตถุดิบประเภท ดิน หิน ปูน
1.2 เซรามิกที่ใช้เป็นเครื่องสุขภัณฑ์(sanitary ware)เช่น อ่างล้างหน้า โถส้วม
1.3 เซรามิกที่ใช้เป็นเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร( tableware )เช่น จาน ชาม ถ้วย ชุดน้ำชา กาแฟ
1.4 เซรามิกที่ใช้เป็นเครื่องใช้ในครัว(kichen ware) เป็นภาชนะที่ใช้ในการปรุงอาหาร หรือหุงค้ม อาจใช้กับเตาอบ หรือเปลวไฟ มีสมบัติทนต่อการเปลี่ยนแปลงของความร้อนอย่างรวดเร็ว หรือทนทานต่อความร้อนที่เกิดจากเปลวเชื้อเพลิงที่ลุกไหม้โดยตรง
1.5 เซรามิกที่ใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง ของที่ระลึก ( novelty )
1.6 เซรามิกที่ใช้เป็นวัตถุทนไฟ ( refactory )เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสมบัติด้านทนความร้อนได้สูงกว่า(สูงกว่า 1580 องศาเซสเซียส ขึ้นไป) มีความแข็งแรงทนต่อแรงกด ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ผลิตภัณฑ์ประเภทวัตถุทนไฟ เช่น อิฐทนไฟ วัสดุทนไฟ ส่วนใหญ่วัตถุไฟใช้ในอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก ทำเตาเผา เตาหลอมเหล็ก และยังใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิก อุตสาหกรรมเคมี
1.7 เซรามิกที่ใช้เป็นฉนวนไฟฟ้า( electrical insulator )เช่น ลูกถ้วยไฟฟ้า หัวเทียน ที่ตัดไฟ
1.8 เซรามิกที่ใช้เป็นโลหะเคลือบ( enamel )สารที่ใช้เคลือบบนผิวโลหะ คือ เซรามิก เช่น การเคลือบบนผิว ทอง เงิน เหล็ก ตัวอย่างเช่น จานสังกะสี
1.9 เซรามิกที่ใช้เป็นแก้ว( glass) แก้วจัดเป็นเซรามิก ได้จากการนำทรายที่เป็นวัตถุดิบหลักมาโดยผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ต้องใชัความร้อน
  นอกจากนี้ยังมีเซรามิกชนิดอื่นๆเช่น เซรามิกที่ใช้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ขัดหรือตัด ภาชนะสำหรับใช้งานเคมีในห้องปฎิบัติการ

nn

คลังบทความของเทคโนโลยีการพิมพ์